GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
บทความ
เข้าสู่ระบบ
ผลการค้นหา : "Legion Phone Duel"
แนะนำ 3 สมาร์ทโฟนประเภท “เกมมิ่งโฟน” แบรนด์ดังที่วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในเมืองไทยตอนนี้
ต้องบอกว่าปีนี้เป็นปีทองของมือถือสมาร์ทโฟนประเภท “เกมมิ่งโฟน” เพราะแบรนด์มือถือชื่อเสียงหลายเจ้าถือได้ว่าตีตลาดหนักเป็นอย่างมาก ทำให้เกมเมอร์ที่ต้องการมือถือเอาไว้เล่นเกมโดยเฉพาะมีตัวเลือกมากยิ่งขึ้น แถมเราไม่ต้องซื้อเครื่องหิ้วเหมือนปีที่ผ่าน ๆ มาอีกแล้ว วันนี้เกวลินเลยจะพาเพื่อน ๆ ไปรู้จักเกมมิ่งโฟนที่วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในเมืองไทยกันค่ะ แต่บอกไว้ก่อนนะคะว่าทุกรุ่นเป็นชิปเซ็ตตัวท็อปทั้งหมดเลย จะแตกต่างก็ประสิทธิภาพ, ลูกเล่นแต่ละแบรนด์ แล้วก็ราคา เมื่อพร้อมกันแล้วไปดูกันเลยค่ะ รุ่นแรกที่เกวลินขอแนะนำก็คือ “ASUS ROG Phone 3” จะเรียกว่าเป็นสุดยอดเกมมิ่งโฟนอันดับต้น ๆ ที่มีขุนพลังที่ยอดเยี่ยมที่สุดในเวลานี้เลยก็ว่าได้ค่ะ เพราะใช้ชิปเซ็ตตัวท็อปอย่าง “Snapdragon 865 Plus” ที่ทาง ASUS ยังได้ดันประสิทธิภาพด้วยการ OC ตัวชิปเซ็ต CPU และ GPU ให้มีความเร็วมากกว่าเกมมิ่งโฟนแบรนด์อื่น ๆ ในท้องตลาด แล้วความพิเศษของรุ่นนี้ก็คือมีการแถมตัวระบายความร้อนรุ่นใหม่อย่าง “GameCool 3” ที่ทำให้เราสามารถเล่นเกมได้ตลอดทั้งวันไม่ต้องกลัวว่าเครื่องจะร้อนมือ แล้วด้วยความที่เป็น ASUS ก็มีการดีไซน์ตัวเครื่องในส่วนต่าง ๆ เช่น มีตัวรับสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่แม่นยำ, ตัวรับเสียงพูดของผู้ใช้งาน, เพิ่มปุ่ม AirTriggers 3 เข้ามาด้านข้างเครื่องเพื่อใช้ในการเล่นเกมประเภท FPS ได้ดีมากกว่าเดิม, ลำโพงที่จัดมาให้เต็ม ๆ รวมไปถึงเรายังสามารถที่จะชาร์จขนาดเล่นพร้อมเชื่อมต่อในการถ่ายทอดสดได้อีกด้วย ยังไม่หมดแค่นั้นนะคะ ASUS ยังได้ออกแบบอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ออกมาเพียบเลย สุดท้ายนี้ก็ยังสามารถรองรับเทคโนโลยี 5G อีกด้วยค่ะ สเปกเครื่อง ASUS ROG Phone 3 ระบบปฏิบัติการ: Android 10 ครอบทับด้วย ROG UI หน้าจอการแสดงผล: หน้าขอมีขนาด 6.59 นิ้วเป็นรูปแบบ AMOLED ที่มีความละเอียด Full HD+ ที่รองรับการแสดงผลในรูปแบบ HDR10+ รีเฟรชเรทสามารถดันได้สูงสุด 144Hz ที่มีการตอบสนองการสัมผัสหน้าจอที่ 240Hz แถมที่มีค่าดีเลยเพียงแค่ 1ms เท่านั้น รวมไปถึงตัวหน้าจอยังเป็น Corning Gorilla Glass 6  CPU: Snapdragon 865 Plus และ Snapdragon 865 สำหรับรุ่น ROG Phone 3 Strix Edition GPU: Adreno 650 RAM: 8GB. สำหรับรุ่น ROG Phone 3 Strix Edition และ 12GB. เป็นรูปแบบ LPDDR5 ความจุ: 256GB. สำหรับรุ่น ROG Phone 3 Strix Edition และ 512GB. เป็นรูปแบบ UFS 3.1 ( ไม่สามารถเพิ่มความจุได้ ) กล้องหลัง: กล้องหลักความละเอียด 64MP [เป็นเซ็นเซอร์ของ Sony IMX682], เลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 13MP, เลนส์ Macro ความละเอียดสูงถึง 5MP กล้องหน้า: ความละเอียด 24MP การเชื่อมต่อ: WiFi 802.11 a/b/g/n/ac/ax Bluetooth 5.1, USB-C 3.1 กับ ช่องเสียบชุดหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร ระบบเสียง: เป็นระบบเสียง DTS X Sound เซ็นเซอร์: ระบบสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ แบตเตอรี่: 6,000 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 30 วัตต์ สำหรับ ASUS ROG Phone 3 วางจำหน่ายทั้งหมด 2 รุ่นด้วยกันค่ะ รวมไปถึงอุปกรณ์อื่น ๆ ที่ใช้ร่วมกันมีดังต่อไปนี้ค่ะ ASUS ROG Phone 3 ในรุ่น Ram 12GB. และ Rom 512GB. สนนราคาอยู่ที่ 32,990 บาท ภายในกล่องแถมตัวระบายความร้อน AeroActive Cooler 3 มาให้ด้วย ASUS ROG Phone 3 Strix Edition ในรุ่น Ram 8GB. และ Rom 256GB. ราคาอยู่ที่ 24,990 บาท ภายในกล่องแถมตัวระบายความร้อน AeroActive Cooler 3 มาให้ด้วย ROG Phone 3 Lighting Armor Case - ราคาอยู่ที่ 1,990 บาท ROG Clip - ราคาอยู่ที่ 1,990 บาท ROG Kunai 3 Gamepad - ราคาอยู่ที่ 3,990 บาท TwinView Dock 3 - ราคาอยู่ที่ 7,990 บาท โดย ASUS ROG Phone 3 สามารถหาซื้อได้ทั้ง ASUS Exclusive Store, ASUS Official Store ผ่านช่องทาง Shopee กับ lazada นอกจากนี้ยังสามารถซื้อผ่านเครือข่ายโทรศัพท์มือถือชื่อดังอย่าง “AIS” ที่มีโปรโมชั่นลดราคาในแพ็คเกจพิเศษแล้วก็ยังสามารถสั่งซื้อผ่านร้านค้าชื่อดังทั้ง JIB Computer หรือ Banana ก็มีวางจำหน่ายด้วยเช่นกันค่ะ ใครที่อยากจะได้สุดยอดเกมมิ่งโฟนห้ามพลาดเลยค่ะ! รุ่นต่อมาพึ่งประกาศวางจำหน่ายในบ้านเราแบบสด ๆ ร้อน ๆ กันเลยกับ “Legion Phone Duel” จากแบรนด์ Lenovo ที่ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่าเป็นคู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อของ ASUS ROG Phone 3 เลยก็ว่าได้ค่ะ ด้วยราคาที่ถูกกว่ากันเล็กน้อย แต่ประสิทธิภาพก็ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน โดย Legion Phone Duel ก็ถูกจัดอยู่ในสมาร์ทโฟนประเภท “เกมมิ่งโฟน” ที่ใช้ซิปเซ็ตตัวท็อปอย่าง “Snapdragon 865 Plus” เหมือนกัน แล้วจุดเด่นของรุ่นนี้อยู่ตรงที่ออกแบบมาเพื่อใช้กับเกมที่เล่นแบบแนวนอนเป็นหลัก ( ส่วนใหญ่เกมก็มักจะเป็นแนว ๆ นี้อยู่แล้วใช่ไหมคะ ) ที่น่าสนใจอีกข้อก็คือมีการปรับปรุงปุ่ม Trigger ทั้งซ้าย และ ขวาของตัวเครื่องให้มีประสิทธิภาพในการทำงานที่แม่นยำขึ้น ใครที่ชอบเล่นเกมแนว FPS หรือ บางคนจะนำไปใช้กับเกมแนว MOBA ก็ได้เหมือนกันค่ะ โดยสองปุ่มนี้จะเป็นปุ่มที่เพิ่มคำสั่งต่าง ๆ ภายในเกมขึ้นอยู่กับว่าตัวผู้เล่นต้องการตั้งค่าเพื่อให้ใช้งานรูปแบบไหน ที่เด็ดสุดก็คือทาง Lenovo ได้ออกแบบระบบสั่นเป็นมอเตอร์คู่อยู่ฝั่งซ้าย กับ ขวาของตัวเครื่องที่จะมอบประสบการณ์ในการเล่นเกมบนมือถือแบบใหม่ซะด้วยค่ะ เช่นเดียวกันค่ะ รุ่นนี้ก็รองรับเทคโนโลยี 5G ด้วยเช่นกันค่ะ สเปกเครื่อง Legion Phone Duel ระบบปฏิบัติการ: Android 10 ครอบทับด้วย Legion OS และ ZUI12 หน้าจอการแสดงผล: หน้าขอมีขนาด 6.65 นิ้วเป็นรูปแบบ AMOLED ที่มีความละเอียด Full HD+ รองรับ รีเฟรชเรทสามารถดันได้สูงสุด 144Hz ที่มีการตอบสนองการสัมผัสหน้าจอที่ 240Hz รวมไปถึงตัวหน้าจอยังเป็น Corning Gorilla Glass 6  CPU: Snapdragon 865 Plus  GPU: Adreno 650 RAM: 12GB. และ 16GB. เป็นรูปแบบ LPDDR5 ความจุ: 256GB. และ 512GB. เป็นรูปแบบ UFS 3.1  กล้องหลัง: กล้องหลักความละเอียด 64MP [เป็นเซ็นเซอร์ของ Sony IMX682] ค่ารูรับแสงอยู่ที่ f/1.89, เลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 16MP กล้องหน้า: ความละเอียด 20MP ค่ารูรับแสง f/2.2 เป็นรูปแบบป๊อปอัพด้านข้าง การเชื่อมต่อ: Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6, dual-band, Wi-Fi Direct, hotspot, Bluetooth 5.0, มี USB-C ถึง 2 ช่องส่งผลทำให้เราสามารถที่จะชาร์จแบตเตอรี่ไปพร้อมกับเล่นเกมไปด้วย ระบบเสียง: ลำโพงคู่ระบบเสียงสเตริโอ เซ็นเซอร์: ระบบสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ และ มีระบบระบายความร้อนแบบ Dual-Liquid และ Mid-Thermal แบตเตอรี่: 5,000 mAh ที่ทาง Lenovo ออกแบบมาให้เป็น 2 ส่วนคือข้างละ 2,500 mAh เหตุผลก็เพราะเพื่อลดความร้อนระหว่างการชาร์จแบตเตอรี่ หรือ ลดความร้อนจากการที่เครื่องทำงานอย่างหนัก แล้วเด็ดที่สุดคือรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วสูงถึง 90 วัตต์ที่เครมกันว่าสามารถชาร์จจาก 0 ไป 100% ในระยะเวลาเพียง 30 นาทีเท่านั้น! โดย Legion Phone Duel วางจำหน่ายทั้งหมด 2 รุ่นด้วยกัน รุ่นแรกมี Ram 12GB. แล้วก็ Rom 256GB. ราคาอยู่ที่ 23,990 บาท ที่ตัวเครื่องจะมีแค่สีน้ำเงินเท่านั้น และ รุ่นต่อมา Ram 16GB. แล้วก็ Rom 512GB. ราคาอยู่ที่ 30,990 บาท ที่ตัวเครื่องจะมีแค่สีแดงเท่านั้น ซึ่งถ้าใครที่อยากจะได้ในแพ็คเกจราคาพิเศษก็ซื้อผ่านเครือข่ายโทรศัพท์มือถือชื่อดังอย่าง “AIS” ได้เลยค่ะ เพราะราคาถูกมาก ๆ เลย แล้วถ้าใครที่ใช้เบอร์ของ AIS มานานก็จะได้รับสิทธิ์ในการลดราคาเพิ่มเติมอีกด้วย ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ( คลิกที่นี่ ) นอกเหนือจากนี้ยังมีการวางจำหน่ายผ่านช่องทางอื่น ๆ อาทิเช่น IT City, JD.co.th, JIB Computer, Speed Computer, Banana และ BlueShop เป็นต้นค่ะ มาถึงอีกหนึ่งรุ่นที่เริ่มตีตลาดในบ้านเราได้ราว ๆ 2 ปีแล้วค่ะ กับ “Black Shark 3, Black Shark 3 Pro หรือ Black Shark 3S” หนึ่งในแบรนด์ลูกของ Xiaomi ซึ่งก็ได้รับกระแสตอบรับจากเกมเมอร์เป็นอย่างดีเลยค่ะ เห็นชื่อแบรนด์หลายคนก็คงจะทราบเลยว่ามันคือสมาร์ทโฟนประเภท “เกมมิ่งโฟน” ที่มีราคาถูกที่สุดในบรรดา 2 แบรนด์ก่อนหน้านี้เลยค่ะ แต่ก็ใช่ว่าประสิทธิภาพของเขาจะไม่ได้ยอดเยี่ยมอย่างนั้นนะคะ โดยต้องอธิบายก่อนว่าปัจจุบันทาง Xiaomi มีแค่ 2 รุ่นที่วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในบ้านเราก็คือ Black Shark 2 กับ Black Shark 3 ส่วน Black Shark 3 Pro กับ Black Shark 3S ที่เป็นรุ่นอัปเกรดเพิ่มประสิทธิภาพยังไม่มีตารางการนำเข้ามาวางจำหน่าย สำหรับ Black Shark 3 ทาง Xiaomi เลือกใช้ชิปเซ็ต “Snapdragon 865” แม้ว่าประสิทธิภาพจะไม่ได้แตกต่างจากชิปเซ็ตตัวท็อป “Snapdragon 865 Plus” ก็ตาม แต่ตัวนี้ก็สามารถรองรับเทคโนโลยี 5G และ Wi-Fi 6 ได้ด้วย มีการดีไซน์มีปุ่ม Shoulder Button ที่อยู่ทางซ้าย และ ขวาของตัวเครื่องเหมือนกับ 2 แบรนด์ก่อนหน้านี้ค่ะ ความเก๋ของมันก็คือเมื่อเวลาเล่นเกมปุ่มนี้จะเด้งขึ้นมาเพื่อให้ใช้งาน แต่เมื่อใดที่เราใช้งานแบบปกติมันก็จะกลับไปอยู่ในสภาพตามปกติค่ะ อีกทั้งยังเครมอีกว่ามันทนต่อแรงกด และ การหดตัวเวลาเก็บได้ถึง 300,000 ครั้ง ก็ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งจุดหนึ่งที่น่าสนใจไม่ใช่น้อยเลยค่ะ นอกจากนี้ Black Shark 3 ยังมีลำโพงคู่ในรูปแบบระบบสเตริโอ รวมไปถึงยังรองรับระบบเสียงแบบ Hi-Res อีกด้วยค่ะ เท่านั้นยังไม่พอใครที่ใช้ชอบหูฟังที่เป็นรูปแบบ 3.5 มม. รุ่นนี้ก็กลับมาให้เราได้ใช้งานกันอีกครั้ง แถมตัวนี้ยังมีการชาร์จแบบแม่เหล็กที่แตะด้านหลังเครื่องได้ด้วย รวมไปถึงยัง สเปกเครื่อง Black Shark 3 ระบบปฏิบัติการ: Android 10 ครอบทับด้วย Joy UI 11 หน้าจอการแสดงผล: หน้าขอมีขนาด 6.67 นิ้วเป็นรูปแบบ AMOLED ที่มีความละเอียด Full HD+ รองรับ รีเฟรชเรทสามารถดันได้สูงสุด 90Hz ที่มีการตอบสนองการสัมผัสหน้าจอที่ 240Hz  CPU: Snapdragon 865 GPU: Adreno 650 RAM: 8GB. และ 12GB. เป็นรูปแบบ LPDDR4x ความจุ: 125GB. และ 256GB. เป็นรูปแบบ UFS 3.0 กล้องหลัง: กล้องหลักความละเอียด 64MP [เป็นเซ็นเซอร์ของ Sony IMX682] ค่ารูรับแสงอยู่ที่ f/1.8, เลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 13MP ค่ารูรับแสงอยู่ที่ f/2.3 และ เลนส์ Depth ความละเอียด 5MP ค่ารูรับแสงอยู่ที่ f/2.2  กล้องหน้า: ความละเอียด 20MP ค่ารูรับแสง f/2.0 การเชื่อมต่อ: Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6, dual-band, Wi-Fi Direct, hotspot, Bluetooth 5.0, USB-C ระบบเสียง: ลำโพงคู่ระบบเสียงสเตริโอ เซ็นเซอร์: ระบบสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ แบตเตอรี่: 4,720 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วสูงถึง 65 วัตต์ การชาร์จแบบแม่เหล็กด้านหลังเครื่อง 18 วัตต์ สำหรับ Black Shark 3 วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการผ่านช่องทาง Black Shark Official Store แพลตฟอร์ม lazada เท่านั้น! โดยสนนราคาอยู่ที่ 21,900 บาท ก็จะมีการจัดโปรโมชั่นลดราคาเป็นระยะ ๆ ซึ่งในตอนที่เขียนบทความนี้ลดราคาเหลืออยู่ที่ 18,990 บาท ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ( คลิกที่นี่ ) นอกจากนี้ทาง Xiaomi ยังจำหน่ายอุปกรณ์เสริมที่ใช้งานร่วมกับ Black Shark 3 เพียบเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเคส, พัดลมระบายความร้อน, หูฟัง, คีย์บอร์ดมือถือ หรือ คอนโทรลเลอร์ เป็นต้น ก็สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมต่าง ๆ ได้ที่ ( คลิกที่นี่ )  นี่คือมือถือสมาร์ทโฟนประเภท “เกมมิ่งโฟน” ที่วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในบ้านเรา ไม่นับแบรนด์อื่น ๆ ที่วางจำหน่ายแล้วมีร้านค้าที่หิ้วนำเข้ามาขายในบ้านเรานะคะ ซึ่ง 3 แบรนด์นี้เกมเมอร์สามารถซื้อผ่านช่องทางต่าง ๆ อีกทั้งยังมีการประกันจากผู้ผลิต หรือใครที่ต้องการอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ก็สามารถสั่งซื้อผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้เลย งานนี้ก็ขึ้นอยู่กับเงินในกระเป๋าของเพื่อน ๆ ว่าอยากจะซื้อแบรนด์ไหนมาใช้งานกัน เพราะแต่ละรุ่นก็มีลูกเล่น, ประสิทธิภาพ แล้วก็ราคาที่แตกต่างกันออกไป เรียกว่าจะไปให้สุดแล้วหยุดที่สุดยอด หรือ จะเลือกประหยัดแต่ก็เล่นเกมได้เหมือนกันอยู่ที่เพื่อน ๆ ตัดสินใจเลยค่ะ แล้วพบกันใหม่กับบทความหน้า สำหรับวันนี้ สวัสดีค่ะ!
12 Nov 2020
Lenovo Legion Phone Duel ปฐมบทแห่ง Legion เกมมิ่งสมาร์ทโฟน ขั้นสุดแห่งพลังของการเล่นเกมบนมือถือ
(กลาง) คุณธเนศ อังคศิริสรรพ, ผู้จัดการทั่วไป ประจำภูมิภาคอินโดจีน, (ขวา) คุณวรพจน์ ถาวรวรรณ, ผู้จัดการทั่วไปประจำพม่า ลาว กัมพูชา และผู้อำนวยการส่วนธุรกิจคอนซูเมอร์ประจำไทย และ (ซ้าย) คุณศรัณยพงศ์ สินทิพย์, ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ ผลิตภัณฑ์เกมมิ่ง เลอโนโว ถ่ายภาพในงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์เกมมิ่งสมาร์ทโฟน Lenovo Legion Phone Duel เกมมิ่งสมาร์ทโฟน Lenovo Legion Phone Duel ประเทศไทย - 22 ตุลาคม 2020 -– เลอโนโวเปิดตัวเกมมิ่งสมาร์ทโฟนรุ่นแรก Lenovo Legion Phone Duel ที่มาพร้อม Duel Technology Architecture ช่วยผสานการออกแบบเครื่องทั้งซอฟต์แวร์ภายใน และฮาร์ดแวร์ภายนอกให้ตอบโจทย์การเล่นเกมบนสมาร์ทโฟนอย่างไร้ข้อจำกัดที่แท้จริง Lenovo Legion คือไลน์ผลิตภัณฑ์เกมมิ่งจากเลอโนโวที่มีการเติบโตเร็วที่สุดในเอเชียแปซิฟิก1 โดยมีผลิตภัณฑ์เพื่อการเล่นเกมที่ครอบคลุมไม่ว่าจะเป็น คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ จอมอนิเตอร์ และอุปกรณ์เสริมเพื่อการเล่นเกมอีกมากมาย วันนี้เลอโนโวพร้อมขยายไลน์ผลิตภัณฑ์เพื่อการเล่นเกมด้วยการเปิดตัวเกมมิ่งสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่ออกแบบขึ้นจาก feedback ของเกมเมอร์ทั่วโลกว่าอะไรคือสิ่งที่พวกเค้ามองหาในผลิตภัณฑ์เกมมิ่งสมาร์ทโฟน  ความนิยมของการเล่นเกม e-sport บนมือถือมีการเติบโดอย่างรวดเร็ว และสิ่งที่เกมเมอร์มองหาในเครื่องคือ การจัดการความร้อนที่ต้องทำได้ดี มีปุ่มกดเฉพาะเพื่อการปรับแต่งที่สะดวก และสามารถใช้งาน livestreaming ได้เพื่อที่เกมเมอร์เหล่านี้จะได้โชว์ความสามารถให้เป็นที่ประจักษ์บนเวทีการแข่งขันที่เชื่อมถึงกันทั่วโลก เลอโนโวได้ออกแบบ Legion Phone Duel  ให้ไม่เพียงแค่ตอบสนองต่อความต้องการที่เหล่าเกมเมอร์มองหา แต่ยังให้คุณสมบัติแห่งอนาคตที่เหนือไปอีกขั้นกับความสามารถในการรองรับการใช้งาน 5G และคลาวด์เกมมิ่ง เหนือสุดแห่งความแรง ที่สุดแห่งความเร็ว Legion Phone Duel มาพร้อมชิปเซ็ตอันทรงพลังอย่าง Qualcomm® Snapdragon™ 865 Plus ที่ให้ประสิทธิภาพการประมวลผลเครื่องที่เร็วและแรงผ่านเทคโนโลยี Qualcomm Snapdragon Elite Gaming™ นอกจากนี้ยังรองรับการใช้งาน 5G2 เสริมประสิทธิภาพเครื่องด้วย 5th gen ชิปเช็ตหน่วยความจำสูงสุดถึง 16GB LPDDR5, RAM และความจุสูงสุดถึง 512GB3 UFS 3.1.5. เต็มที่กับการแสดงผลบนหน้าจอขนาด 6.65 นิ้ว ความละเอียดมากถึง 2340 x 1080 พิกเซล พร้อมรีเฟรชเรตสูงถึง  144Hz นอกจากนี้ยังรองรับอัตราการตอบสนองต่อการสัมผัสหน้าจอ (touch sample rate) ที่สูงถึง 240Hz ช่วยให้ทุกสัมผัสหน้าจอตอบสนองอย่างรวดเร็วในทุกเกมแห่งชัยชนะ ผสานพลังจากภายนอกและภายในด้วย Dual Technology Architecture สองย่อมดีกว่าหนึ่ง ด้วยเทคโนโลยี Dual Technology Architecture ที่เป็นส่วนสำคัญในการออกแบบ Legion Phone Duel เริ่มต้นตั้งแต่วงจรพลังงานของเครื่อง Dual Batteries - แบตเตอรี่แบบแพ็คคู่ขนาด 2500mAh ที่รวมแล้วให้ความจุแบตเตอรี่ขนาด 5000mAh ถูกจัดวางให้อยู่ด้านซ้ายและขวาในตำแหน่งที่ตรงกับฝ่ามือ เพื่อเว้นที่ตรงกลางสำหรับวาง logic board ที่มีความร้อนให้ไกลกับฝ่ามือของผู้ใช้งานซึ่งมีความร้อนเช่นกัน เพื่อจัดการอุณหภูมิในการเล่นของเครื่องให้สามารถเล่นได้อย่างต่อเนื่องสบายมือ จะเล่นเกมติดต่อกันแบบมาราธอนก็สามารถทำได้อย่างไร้กังวล ด้วยเทคโนโลยีท่อระบายความร้อนระดับ     ไฮเอนด์แบบ Dual-Liquid, แผ่นกราไฟต์ที่ถ่ายเทความร้อนได้ดีเยี่ยม และแผ่นทองแดง เพื่อให้มั่นใจว่าควบคุมอุณหภูมิได้อย่างเที่ยงตรง ให้เกมเมอร์เต็มที่กับประสบการณ์เล่นเกมที่ยอดเยี่ยมและยาวนาน Dual Type-C Charging ให้ความสะดวกในการชาร์จด้วยพอร์ตเชื่อมต่อ USB-C  2 ตำแหน่งที่ด้านข้างและด้านล่างของเครื่องเพื่อให้คุณเลือกชาร์จแบตเตอรี่จากที่ชาร์จขนาด 65W ได้ทั้งแบบหนึ่งหรือ 2 ที่ชาร์จพร้อมกันโดยจะให้พลังแบตเตอรี่จาก 0% - 100% ภายใน 34 นาที (หรือ 0% - 60% ใน 15 นาที) Dual Shoulder Controls ปุ่มไกควบคุมแบบอัลตร้าโซนิคด้านซ้ายขวามาพร้อมกลไก Dual Haptics ที่ช่วยให้ทุกการกดในขณะเล่นเกมได้ความลึกสมจริงเสมือนเป็นปุ่มกดจริงทั้งยังสามารถปรับระดับการตอบสนองให้รับกับความต้องการของผู้เล่นได้อย่างอิสระ ตัวอย่างเช่น การปรับโหมดการยิงในเกม (สูงสุดที่การยิง 10 ครั้งต่อวินาที) ด้วยการกดปุ่มไกแบบลากยาว เซ็นเซอร์แบบ gyroscope ช่วยปรับมุมมองในการเล่นให้เป็นแบบเกมมิ่งโดยอัตโนมัติทุกครั้งที่คุณหมุนเครื่องให้อยู่ในแนวนอนในลักษณะพร้อมเล่นเกม Dual Front-Facing Speakers ลำโพงคู่หน้าที่หันเข้าหาผู้เล่นให้คุณได้ยินเสียงฝีเท้าคู่ต่อสู้ได้อย่างชัดเจนด้วยเทคโนโลยีเสียง Dirac Audio ที่มาพร้อมอะคูสติก แชมเบอร์ขนาดใหญ่ถึง 1.4cc ให้เสียงดังแบบ 3 มิติ รับประสบการณ์เสมือนได้เข้าไปอยู่ในเกม Dual Livestreaming ฟังก์ชั่นสำหรับการไลฟ์สตรีมผ่านกล้องหน้าแบบ pop-up ความละเอียดขนาด 20MP ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าสู่โหมดการไลฟ์สตรีมในเวลาเพียง 0.5 วินาที ไลฟ์สตรีมหน้าและเสียงขณะเล่นกับภาพแบบ overlay บนหน้าจอเกมที่เล่น ซึ่งฟังก์ชัน Dual Livestreaming สามารถใช้งานได้บนแอปที่รองรับการไลฟ์สตรีมที่มีอยู่ในปัจจุบัน ตัวฟังก์ชันยังมาพร้อมความสามารถในการลบภาพพื้นหลัง ปรับแต่งใบหน้าของคุณด้วย selfie editor ที่ใช้ความสามารถของ AI ในการรีทัช ปรับแต่งภาพและสร้างฟิลเตอร์ บันทึกเสียงทุกการไลฟ์ให้ดังฟังชัดด้วยไมโครโฟนแบบรอบทิศทาง 4 ตัวที่มาพร้อมระบบจัดการเสียงรบกวนรอบข้าง Legion Phone Duel มาพร้อมกล้องหลังความละเอียด 64MP และเลนส์แบบ ultrawide ขนาด 16MP ให้ภาพละเอียดคมชัดในทุกมุมมอง นอกจากนี้ยังรอบรับการอัดวีดีโอแบบ 4K ที่เฟรมเรต 30FPS เล่นในแบบที่คุณต้องการ ต่อเนื่องตลอดวัน Legion Phone Duel มาพร้อมอินเตอร์เฟซแบบเฉพาะที่ช่วยให้ผู้เล่นสามารถใช้งานเครื่องในมุมมองแบบแลนด์สแคปได้อย่างสะดวกสบายไม่ว่าจะเพื่อการใช้งานทั่วไปหรือเล่นเกม Legion Realm แดชบอร์ดกลางของเครื่องที่ให้ผู้ใช้ควบคุมปรับแต่งฮาร์ดแวร์เครื่อง ไล่ดูรายชื่อเกมที่ดาวน์โหลดไว้ หรือเลือกเครือข่ายในการเชื่อมต่อไม่ว่าจะเป็น  WLAN, 5G, หรือ Wi-Fi 6 ได้อย่างรวดเร็ว ดูเกมที่คุณเล่นย้อนหลังเพื่อศึกษากลยุทธในฉากที่ไฮไลท์ก็ทำได้อย่างง่าย ๆ ผ่านฟังก์ชั่นการพรีวิว หรือจะรวมคลิปเข้าด้วยกันเพื่อแชร์ให้เพื่อรวมทีมไปศึกษาก็ทำได้ หรือถ้าคุณเพิ่งผ่านสมรภูมิสุดหิน หรือทำสถิติคะแนนใหม่แต่คุณลืมที่จะกด record ก็ไม่ต้องกังวลใจไป เพียงแค่คุณสไลด์นิ้วมือไปทางซ้ายบนปุ่มไกควบคุมด้านขวา เกมมิ่งสมาร์ทโฟนสุดอัจฉริยะอย่าง Legion Phone Duel ก็จะรีเพลย์ฉากที่เครื่องอัดไว้แบบอัตโนมัติให้กับคุณเพื่อที่คุณจะสามารถกดอัดบันทึกไว้ดูในอนาคต ไม่พลาดทุกการติดต่อที่สำคัญด้วยการปรับแต่งสีไฟ RGB บน สัญลักษณ์ตัว Y ด้านหลังเครื่องให้เปลี่ยนสีเพื่อเตือนเมื่อคุณมีข้อความเข้า หรือบอกสถานการณ์ชาร์จของแบตเตอรี่ และสุดท้าย หากคุณต้องการเปลี่ยนอรรถรสในการเล่นจากหน้าจอเครื่องไปที่จอมอนิเตอร์เพื่อมุมมองที่แปลกใหม่ก็สามารถทำได้ง่าย ๆ เพียงต่อ Legion Phone Duel เข้ากับจอมอนิเตอร์ คีย์บอร์ด หรือเม้าส์ผ่านพอร์ต USB-C Lenovo Legion Phone Duel จะวางจำหน่ายในประเทศไทยวันที่ 28 ตุลาคม 2020 เป็นต้นไป ตามรายละเอียดดังนี้ Lenovo Legion Phone Duel 12GB / 256GB Blazing Blue ราคา 23,990 บาท Lenovo Legion Phone Duel 16GB / 512GB Vengeance Red ราคา 30,990 บาท ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ  Lenovo Legion Phone Duel ได้แก่ AIS, Banana, Blue Shop, IT-City, JD, JIB และ Speed Computer  Pre-Order Promotion สำหรับลูกค้าที่สั่งซื้อระหว่างวันที่ 22 – 28 ตุลาคม 2020 รับสิทธิรับของสมนาคุณมูลค่าสูงสุดกว่า 3,500 บาท ดังนี้  Lenovo Legion Phone Duel 12GB / 256GB Blazing Blue ราคา 23,990 THB รับฟรี Legion Gaming Backpack Recon มูลค่า 1,990 บาท Lenovo Legion Phone Duel 16GB / 512GB Vengeance Red ราคา 30,990 บาท รับฟรี Legion Gaming Backpack Recon มูลค่า 1,990 บาท และ Legion Gaming Headset H300 มูลค่า 1,390 บาท ติดตามความเคลื่อนไหวของผลิตภัณฑ์ Lenovo Legion ในประเทศไทยได้ที่  www.lenovo.com/th/th/legion และ https://www.facebook.com/lenovolegionTH/
22 Oct 2020
GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
ผลการค้นหา : "Legion Phone Duel"
แนะนำ 3 สมาร์ทโฟนประเภท “เกมมิ่งโฟน” แบรนด์ดังที่วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในเมืองไทยตอนนี้
ต้องบอกว่าปีนี้เป็นปีทองของมือถือสมาร์ทโฟนประเภท “เกมมิ่งโฟน” เพราะแบรนด์มือถือชื่อเสียงหลายเจ้าถือได้ว่าตีตลาดหนักเป็นอย่างมาก ทำให้เกมเมอร์ที่ต้องการมือถือเอาไว้เล่นเกมโดยเฉพาะมีตัวเลือกมากยิ่งขึ้น แถมเราไม่ต้องซื้อเครื่องหิ้วเหมือนปีที่ผ่าน ๆ มาอีกแล้ว วันนี้เกวลินเลยจะพาเพื่อน ๆ ไปรู้จักเกมมิ่งโฟนที่วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในเมืองไทยกันค่ะ แต่บอกไว้ก่อนนะคะว่าทุกรุ่นเป็นชิปเซ็ตตัวท็อปทั้งหมดเลย จะแตกต่างก็ประสิทธิภาพ, ลูกเล่นแต่ละแบรนด์ แล้วก็ราคา เมื่อพร้อมกันแล้วไปดูกันเลยค่ะ รุ่นแรกที่เกวลินขอแนะนำก็คือ “ASUS ROG Phone 3” จะเรียกว่าเป็นสุดยอดเกมมิ่งโฟนอันดับต้น ๆ ที่มีขุนพลังที่ยอดเยี่ยมที่สุดในเวลานี้เลยก็ว่าได้ค่ะ เพราะใช้ชิปเซ็ตตัวท็อปอย่าง “Snapdragon 865 Plus” ที่ทาง ASUS ยังได้ดันประสิทธิภาพด้วยการ OC ตัวชิปเซ็ต CPU และ GPU ให้มีความเร็วมากกว่าเกมมิ่งโฟนแบรนด์อื่น ๆ ในท้องตลาด แล้วความพิเศษของรุ่นนี้ก็คือมีการแถมตัวระบายความร้อนรุ่นใหม่อย่าง “GameCool 3” ที่ทำให้เราสามารถเล่นเกมได้ตลอดทั้งวันไม่ต้องกลัวว่าเครื่องจะร้อนมือ แล้วด้วยความที่เป็น ASUS ก็มีการดีไซน์ตัวเครื่องในส่วนต่าง ๆ เช่น มีตัวรับสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่แม่นยำ, ตัวรับเสียงพูดของผู้ใช้งาน, เพิ่มปุ่ม AirTriggers 3 เข้ามาด้านข้างเครื่องเพื่อใช้ในการเล่นเกมประเภท FPS ได้ดีมากกว่าเดิม, ลำโพงที่จัดมาให้เต็ม ๆ รวมไปถึงเรายังสามารถที่จะชาร์จขนาดเล่นพร้อมเชื่อมต่อในการถ่ายทอดสดได้อีกด้วย ยังไม่หมดแค่นั้นนะคะ ASUS ยังได้ออกแบบอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ออกมาเพียบเลย สุดท้ายนี้ก็ยังสามารถรองรับเทคโนโลยี 5G อีกด้วยค่ะ สเปกเครื่อง ASUS ROG Phone 3 ระบบปฏิบัติการ: Android 10 ครอบทับด้วย ROG UI หน้าจอการแสดงผล: หน้าขอมีขนาด 6.59 นิ้วเป็นรูปแบบ AMOLED ที่มีความละเอียด Full HD+ ที่รองรับการแสดงผลในรูปแบบ HDR10+ รีเฟรชเรทสามารถดันได้สูงสุด 144Hz ที่มีการตอบสนองการสัมผัสหน้าจอที่ 240Hz แถมที่มีค่าดีเลยเพียงแค่ 1ms เท่านั้น รวมไปถึงตัวหน้าจอยังเป็น Corning Gorilla Glass 6  CPU: Snapdragon 865 Plus และ Snapdragon 865 สำหรับรุ่น ROG Phone 3 Strix Edition GPU: Adreno 650 RAM: 8GB. สำหรับรุ่น ROG Phone 3 Strix Edition และ 12GB. เป็นรูปแบบ LPDDR5 ความจุ: 256GB. สำหรับรุ่น ROG Phone 3 Strix Edition และ 512GB. เป็นรูปแบบ UFS 3.1 ( ไม่สามารถเพิ่มความจุได้ ) กล้องหลัง: กล้องหลักความละเอียด 64MP [เป็นเซ็นเซอร์ของ Sony IMX682], เลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 13MP, เลนส์ Macro ความละเอียดสูงถึง 5MP กล้องหน้า: ความละเอียด 24MP การเชื่อมต่อ: WiFi 802.11 a/b/g/n/ac/ax Bluetooth 5.1, USB-C 3.1 กับ ช่องเสียบชุดหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร ระบบเสียง: เป็นระบบเสียง DTS X Sound เซ็นเซอร์: ระบบสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ แบตเตอรี่: 6,000 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 30 วัตต์ สำหรับ ASUS ROG Phone 3 วางจำหน่ายทั้งหมด 2 รุ่นด้วยกันค่ะ รวมไปถึงอุปกรณ์อื่น ๆ ที่ใช้ร่วมกันมีดังต่อไปนี้ค่ะ ASUS ROG Phone 3 ในรุ่น Ram 12GB. และ Rom 512GB. สนนราคาอยู่ที่ 32,990 บาท ภายในกล่องแถมตัวระบายความร้อน AeroActive Cooler 3 มาให้ด้วย ASUS ROG Phone 3 Strix Edition ในรุ่น Ram 8GB. และ Rom 256GB. ราคาอยู่ที่ 24,990 บาท ภายในกล่องแถมตัวระบายความร้อน AeroActive Cooler 3 มาให้ด้วย ROG Phone 3 Lighting Armor Case - ราคาอยู่ที่ 1,990 บาท ROG Clip - ราคาอยู่ที่ 1,990 บาท ROG Kunai 3 Gamepad - ราคาอยู่ที่ 3,990 บาท TwinView Dock 3 - ราคาอยู่ที่ 7,990 บาท โดย ASUS ROG Phone 3 สามารถหาซื้อได้ทั้ง ASUS Exclusive Store, ASUS Official Store ผ่านช่องทาง Shopee กับ lazada นอกจากนี้ยังสามารถซื้อผ่านเครือข่ายโทรศัพท์มือถือชื่อดังอย่าง “AIS” ที่มีโปรโมชั่นลดราคาในแพ็คเกจพิเศษแล้วก็ยังสามารถสั่งซื้อผ่านร้านค้าชื่อดังทั้ง JIB Computer หรือ Banana ก็มีวางจำหน่ายด้วยเช่นกันค่ะ ใครที่อยากจะได้สุดยอดเกมมิ่งโฟนห้ามพลาดเลยค่ะ! รุ่นต่อมาพึ่งประกาศวางจำหน่ายในบ้านเราแบบสด ๆ ร้อน ๆ กันเลยกับ “Legion Phone Duel” จากแบรนด์ Lenovo ที่ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่าเป็นคู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อของ ASUS ROG Phone 3 เลยก็ว่าได้ค่ะ ด้วยราคาที่ถูกกว่ากันเล็กน้อย แต่ประสิทธิภาพก็ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน โดย Legion Phone Duel ก็ถูกจัดอยู่ในสมาร์ทโฟนประเภท “เกมมิ่งโฟน” ที่ใช้ซิปเซ็ตตัวท็อปอย่าง “Snapdragon 865 Plus” เหมือนกัน แล้วจุดเด่นของรุ่นนี้อยู่ตรงที่ออกแบบมาเพื่อใช้กับเกมที่เล่นแบบแนวนอนเป็นหลัก ( ส่วนใหญ่เกมก็มักจะเป็นแนว ๆ นี้อยู่แล้วใช่ไหมคะ ) ที่น่าสนใจอีกข้อก็คือมีการปรับปรุงปุ่ม Trigger ทั้งซ้าย และ ขวาของตัวเครื่องให้มีประสิทธิภาพในการทำงานที่แม่นยำขึ้น ใครที่ชอบเล่นเกมแนว FPS หรือ บางคนจะนำไปใช้กับเกมแนว MOBA ก็ได้เหมือนกันค่ะ โดยสองปุ่มนี้จะเป็นปุ่มที่เพิ่มคำสั่งต่าง ๆ ภายในเกมขึ้นอยู่กับว่าตัวผู้เล่นต้องการตั้งค่าเพื่อให้ใช้งานรูปแบบไหน ที่เด็ดสุดก็คือทาง Lenovo ได้ออกแบบระบบสั่นเป็นมอเตอร์คู่อยู่ฝั่งซ้าย กับ ขวาของตัวเครื่องที่จะมอบประสบการณ์ในการเล่นเกมบนมือถือแบบใหม่ซะด้วยค่ะ เช่นเดียวกันค่ะ รุ่นนี้ก็รองรับเทคโนโลยี 5G ด้วยเช่นกันค่ะ สเปกเครื่อง Legion Phone Duel ระบบปฏิบัติการ: Android 10 ครอบทับด้วย Legion OS และ ZUI12 หน้าจอการแสดงผล: หน้าขอมีขนาด 6.65 นิ้วเป็นรูปแบบ AMOLED ที่มีความละเอียด Full HD+ รองรับ รีเฟรชเรทสามารถดันได้สูงสุด 144Hz ที่มีการตอบสนองการสัมผัสหน้าจอที่ 240Hz รวมไปถึงตัวหน้าจอยังเป็น Corning Gorilla Glass 6  CPU: Snapdragon 865 Plus  GPU: Adreno 650 RAM: 12GB. และ 16GB. เป็นรูปแบบ LPDDR5 ความจุ: 256GB. และ 512GB. เป็นรูปแบบ UFS 3.1  กล้องหลัง: กล้องหลักความละเอียด 64MP [เป็นเซ็นเซอร์ของ Sony IMX682] ค่ารูรับแสงอยู่ที่ f/1.89, เลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 16MP กล้องหน้า: ความละเอียด 20MP ค่ารูรับแสง f/2.2 เป็นรูปแบบป๊อปอัพด้านข้าง การเชื่อมต่อ: Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6, dual-band, Wi-Fi Direct, hotspot, Bluetooth 5.0, มี USB-C ถึง 2 ช่องส่งผลทำให้เราสามารถที่จะชาร์จแบตเตอรี่ไปพร้อมกับเล่นเกมไปด้วย ระบบเสียง: ลำโพงคู่ระบบเสียงสเตริโอ เซ็นเซอร์: ระบบสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ และ มีระบบระบายความร้อนแบบ Dual-Liquid และ Mid-Thermal แบตเตอรี่: 5,000 mAh ที่ทาง Lenovo ออกแบบมาให้เป็น 2 ส่วนคือข้างละ 2,500 mAh เหตุผลก็เพราะเพื่อลดความร้อนระหว่างการชาร์จแบตเตอรี่ หรือ ลดความร้อนจากการที่เครื่องทำงานอย่างหนัก แล้วเด็ดที่สุดคือรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วสูงถึง 90 วัตต์ที่เครมกันว่าสามารถชาร์จจาก 0 ไป 100% ในระยะเวลาเพียง 30 นาทีเท่านั้น! โดย Legion Phone Duel วางจำหน่ายทั้งหมด 2 รุ่นด้วยกัน รุ่นแรกมี Ram 12GB. แล้วก็ Rom 256GB. ราคาอยู่ที่ 23,990 บาท ที่ตัวเครื่องจะมีแค่สีน้ำเงินเท่านั้น และ รุ่นต่อมา Ram 16GB. แล้วก็ Rom 512GB. ราคาอยู่ที่ 30,990 บาท ที่ตัวเครื่องจะมีแค่สีแดงเท่านั้น ซึ่งถ้าใครที่อยากจะได้ในแพ็คเกจราคาพิเศษก็ซื้อผ่านเครือข่ายโทรศัพท์มือถือชื่อดังอย่าง “AIS” ได้เลยค่ะ เพราะราคาถูกมาก ๆ เลย แล้วถ้าใครที่ใช้เบอร์ของ AIS มานานก็จะได้รับสิทธิ์ในการลดราคาเพิ่มเติมอีกด้วย ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ( คลิกที่นี่ ) นอกเหนือจากนี้ยังมีการวางจำหน่ายผ่านช่องทางอื่น ๆ อาทิเช่น IT City, JD.co.th, JIB Computer, Speed Computer, Banana และ BlueShop เป็นต้นค่ะ มาถึงอีกหนึ่งรุ่นที่เริ่มตีตลาดในบ้านเราได้ราว ๆ 2 ปีแล้วค่ะ กับ “Black Shark 3, Black Shark 3 Pro หรือ Black Shark 3S” หนึ่งในแบรนด์ลูกของ Xiaomi ซึ่งก็ได้รับกระแสตอบรับจากเกมเมอร์เป็นอย่างดีเลยค่ะ เห็นชื่อแบรนด์หลายคนก็คงจะทราบเลยว่ามันคือสมาร์ทโฟนประเภท “เกมมิ่งโฟน” ที่มีราคาถูกที่สุดในบรรดา 2 แบรนด์ก่อนหน้านี้เลยค่ะ แต่ก็ใช่ว่าประสิทธิภาพของเขาจะไม่ได้ยอดเยี่ยมอย่างนั้นนะคะ โดยต้องอธิบายก่อนว่าปัจจุบันทาง Xiaomi มีแค่ 2 รุ่นที่วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในบ้านเราก็คือ Black Shark 2 กับ Black Shark 3 ส่วน Black Shark 3 Pro กับ Black Shark 3S ที่เป็นรุ่นอัปเกรดเพิ่มประสิทธิภาพยังไม่มีตารางการนำเข้ามาวางจำหน่าย สำหรับ Black Shark 3 ทาง Xiaomi เลือกใช้ชิปเซ็ต “Snapdragon 865” แม้ว่าประสิทธิภาพจะไม่ได้แตกต่างจากชิปเซ็ตตัวท็อป “Snapdragon 865 Plus” ก็ตาม แต่ตัวนี้ก็สามารถรองรับเทคโนโลยี 5G และ Wi-Fi 6 ได้ด้วย มีการดีไซน์มีปุ่ม Shoulder Button ที่อยู่ทางซ้าย และ ขวาของตัวเครื่องเหมือนกับ 2 แบรนด์ก่อนหน้านี้ค่ะ ความเก๋ของมันก็คือเมื่อเวลาเล่นเกมปุ่มนี้จะเด้งขึ้นมาเพื่อให้ใช้งาน แต่เมื่อใดที่เราใช้งานแบบปกติมันก็จะกลับไปอยู่ในสภาพตามปกติค่ะ อีกทั้งยังเครมอีกว่ามันทนต่อแรงกด และ การหดตัวเวลาเก็บได้ถึง 300,000 ครั้ง ก็ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งจุดหนึ่งที่น่าสนใจไม่ใช่น้อยเลยค่ะ นอกจากนี้ Black Shark 3 ยังมีลำโพงคู่ในรูปแบบระบบสเตริโอ รวมไปถึงยังรองรับระบบเสียงแบบ Hi-Res อีกด้วยค่ะ เท่านั้นยังไม่พอใครที่ใช้ชอบหูฟังที่เป็นรูปแบบ 3.5 มม. รุ่นนี้ก็กลับมาให้เราได้ใช้งานกันอีกครั้ง แถมตัวนี้ยังมีการชาร์จแบบแม่เหล็กที่แตะด้านหลังเครื่องได้ด้วย รวมไปถึงยัง สเปกเครื่อง Black Shark 3 ระบบปฏิบัติการ: Android 10 ครอบทับด้วย Joy UI 11 หน้าจอการแสดงผล: หน้าขอมีขนาด 6.67 นิ้วเป็นรูปแบบ AMOLED ที่มีความละเอียด Full HD+ รองรับ รีเฟรชเรทสามารถดันได้สูงสุด 90Hz ที่มีการตอบสนองการสัมผัสหน้าจอที่ 240Hz  CPU: Snapdragon 865 GPU: Adreno 650 RAM: 8GB. และ 12GB. เป็นรูปแบบ LPDDR4x ความจุ: 125GB. และ 256GB. เป็นรูปแบบ UFS 3.0 กล้องหลัง: กล้องหลักความละเอียด 64MP [เป็นเซ็นเซอร์ของ Sony IMX682] ค่ารูรับแสงอยู่ที่ f/1.8, เลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 13MP ค่ารูรับแสงอยู่ที่ f/2.3 และ เลนส์ Depth ความละเอียด 5MP ค่ารูรับแสงอยู่ที่ f/2.2  กล้องหน้า: ความละเอียด 20MP ค่ารูรับแสง f/2.0 การเชื่อมต่อ: Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6, dual-band, Wi-Fi Direct, hotspot, Bluetooth 5.0, USB-C ระบบเสียง: ลำโพงคู่ระบบเสียงสเตริโอ เซ็นเซอร์: ระบบสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ แบตเตอรี่: 4,720 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วสูงถึง 65 วัตต์ การชาร์จแบบแม่เหล็กด้านหลังเครื่อง 18 วัตต์ สำหรับ Black Shark 3 วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการผ่านช่องทาง Black Shark Official Store แพลตฟอร์ม lazada เท่านั้น! โดยสนนราคาอยู่ที่ 21,900 บาท ก็จะมีการจัดโปรโมชั่นลดราคาเป็นระยะ ๆ ซึ่งในตอนที่เขียนบทความนี้ลดราคาเหลืออยู่ที่ 18,990 บาท ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ( คลิกที่นี่ ) นอกจากนี้ทาง Xiaomi ยังจำหน่ายอุปกรณ์เสริมที่ใช้งานร่วมกับ Black Shark 3 เพียบเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเคส, พัดลมระบายความร้อน, หูฟัง, คีย์บอร์ดมือถือ หรือ คอนโทรลเลอร์ เป็นต้น ก็สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมต่าง ๆ ได้ที่ ( คลิกที่นี่ )  นี่คือมือถือสมาร์ทโฟนประเภท “เกมมิ่งโฟน” ที่วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในบ้านเรา ไม่นับแบรนด์อื่น ๆ ที่วางจำหน่ายแล้วมีร้านค้าที่หิ้วนำเข้ามาขายในบ้านเรานะคะ ซึ่ง 3 แบรนด์นี้เกมเมอร์สามารถซื้อผ่านช่องทางต่าง ๆ อีกทั้งยังมีการประกันจากผู้ผลิต หรือใครที่ต้องการอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ก็สามารถสั่งซื้อผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้เลย งานนี้ก็ขึ้นอยู่กับเงินในกระเป๋าของเพื่อน ๆ ว่าอยากจะซื้อแบรนด์ไหนมาใช้งานกัน เพราะแต่ละรุ่นก็มีลูกเล่น, ประสิทธิภาพ แล้วก็ราคาที่แตกต่างกันออกไป เรียกว่าจะไปให้สุดแล้วหยุดที่สุดยอด หรือ จะเลือกประหยัดแต่ก็เล่นเกมได้เหมือนกันอยู่ที่เพื่อน ๆ ตัดสินใจเลยค่ะ แล้วพบกันใหม่กับบทความหน้า สำหรับวันนี้ สวัสดีค่ะ!
12 Nov 2020
Lenovo Legion Phone Duel ปฐมบทแห่ง Legion เกมมิ่งสมาร์ทโฟน ขั้นสุดแห่งพลังของการเล่นเกมบนมือถือ
(กลาง) คุณธเนศ อังคศิริสรรพ, ผู้จัดการทั่วไป ประจำภูมิภาคอินโดจีน, (ขวา) คุณวรพจน์ ถาวรวรรณ, ผู้จัดการทั่วไปประจำพม่า ลาว กัมพูชา และผู้อำนวยการส่วนธุรกิจคอนซูเมอร์ประจำไทย และ (ซ้าย) คุณศรัณยพงศ์ สินทิพย์, ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ ผลิตภัณฑ์เกมมิ่ง เลอโนโว ถ่ายภาพในงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์เกมมิ่งสมาร์ทโฟน Lenovo Legion Phone Duel เกมมิ่งสมาร์ทโฟน Lenovo Legion Phone Duel ประเทศไทย - 22 ตุลาคม 2020 -– เลอโนโวเปิดตัวเกมมิ่งสมาร์ทโฟนรุ่นแรก Lenovo Legion Phone Duel ที่มาพร้อม Duel Technology Architecture ช่วยผสานการออกแบบเครื่องทั้งซอฟต์แวร์ภายใน และฮาร์ดแวร์ภายนอกให้ตอบโจทย์การเล่นเกมบนสมาร์ทโฟนอย่างไร้ข้อจำกัดที่แท้จริง Lenovo Legion คือไลน์ผลิตภัณฑ์เกมมิ่งจากเลอโนโวที่มีการเติบโตเร็วที่สุดในเอเชียแปซิฟิก1 โดยมีผลิตภัณฑ์เพื่อการเล่นเกมที่ครอบคลุมไม่ว่าจะเป็น คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ จอมอนิเตอร์ และอุปกรณ์เสริมเพื่อการเล่นเกมอีกมากมาย วันนี้เลอโนโวพร้อมขยายไลน์ผลิตภัณฑ์เพื่อการเล่นเกมด้วยการเปิดตัวเกมมิ่งสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่ออกแบบขึ้นจาก feedback ของเกมเมอร์ทั่วโลกว่าอะไรคือสิ่งที่พวกเค้ามองหาในผลิตภัณฑ์เกมมิ่งสมาร์ทโฟน  ความนิยมของการเล่นเกม e-sport บนมือถือมีการเติบโดอย่างรวดเร็ว และสิ่งที่เกมเมอร์มองหาในเครื่องคือ การจัดการความร้อนที่ต้องทำได้ดี มีปุ่มกดเฉพาะเพื่อการปรับแต่งที่สะดวก และสามารถใช้งาน livestreaming ได้เพื่อที่เกมเมอร์เหล่านี้จะได้โชว์ความสามารถให้เป็นที่ประจักษ์บนเวทีการแข่งขันที่เชื่อมถึงกันทั่วโลก เลอโนโวได้ออกแบบ Legion Phone Duel  ให้ไม่เพียงแค่ตอบสนองต่อความต้องการที่เหล่าเกมเมอร์มองหา แต่ยังให้คุณสมบัติแห่งอนาคตที่เหนือไปอีกขั้นกับความสามารถในการรองรับการใช้งาน 5G และคลาวด์เกมมิ่ง เหนือสุดแห่งความแรง ที่สุดแห่งความเร็ว Legion Phone Duel มาพร้อมชิปเซ็ตอันทรงพลังอย่าง Qualcomm® Snapdragon™ 865 Plus ที่ให้ประสิทธิภาพการประมวลผลเครื่องที่เร็วและแรงผ่านเทคโนโลยี Qualcomm Snapdragon Elite Gaming™ นอกจากนี้ยังรองรับการใช้งาน 5G2 เสริมประสิทธิภาพเครื่องด้วย 5th gen ชิปเช็ตหน่วยความจำสูงสุดถึง 16GB LPDDR5, RAM และความจุสูงสุดถึง 512GB3 UFS 3.1.5. เต็มที่กับการแสดงผลบนหน้าจอขนาด 6.65 นิ้ว ความละเอียดมากถึง 2340 x 1080 พิกเซล พร้อมรีเฟรชเรตสูงถึง  144Hz นอกจากนี้ยังรองรับอัตราการตอบสนองต่อการสัมผัสหน้าจอ (touch sample rate) ที่สูงถึง 240Hz ช่วยให้ทุกสัมผัสหน้าจอตอบสนองอย่างรวดเร็วในทุกเกมแห่งชัยชนะ ผสานพลังจากภายนอกและภายในด้วย Dual Technology Architecture สองย่อมดีกว่าหนึ่ง ด้วยเทคโนโลยี Dual Technology Architecture ที่เป็นส่วนสำคัญในการออกแบบ Legion Phone Duel เริ่มต้นตั้งแต่วงจรพลังงานของเครื่อง Dual Batteries - แบตเตอรี่แบบแพ็คคู่ขนาด 2500mAh ที่รวมแล้วให้ความจุแบตเตอรี่ขนาด 5000mAh ถูกจัดวางให้อยู่ด้านซ้ายและขวาในตำแหน่งที่ตรงกับฝ่ามือ เพื่อเว้นที่ตรงกลางสำหรับวาง logic board ที่มีความร้อนให้ไกลกับฝ่ามือของผู้ใช้งานซึ่งมีความร้อนเช่นกัน เพื่อจัดการอุณหภูมิในการเล่นของเครื่องให้สามารถเล่นได้อย่างต่อเนื่องสบายมือ จะเล่นเกมติดต่อกันแบบมาราธอนก็สามารถทำได้อย่างไร้กังวล ด้วยเทคโนโลยีท่อระบายความร้อนระดับ     ไฮเอนด์แบบ Dual-Liquid, แผ่นกราไฟต์ที่ถ่ายเทความร้อนได้ดีเยี่ยม และแผ่นทองแดง เพื่อให้มั่นใจว่าควบคุมอุณหภูมิได้อย่างเที่ยงตรง ให้เกมเมอร์เต็มที่กับประสบการณ์เล่นเกมที่ยอดเยี่ยมและยาวนาน Dual Type-C Charging ให้ความสะดวกในการชาร์จด้วยพอร์ตเชื่อมต่อ USB-C  2 ตำแหน่งที่ด้านข้างและด้านล่างของเครื่องเพื่อให้คุณเลือกชาร์จแบตเตอรี่จากที่ชาร์จขนาด 65W ได้ทั้งแบบหนึ่งหรือ 2 ที่ชาร์จพร้อมกันโดยจะให้พลังแบตเตอรี่จาก 0% - 100% ภายใน 34 นาที (หรือ 0% - 60% ใน 15 นาที) Dual Shoulder Controls ปุ่มไกควบคุมแบบอัลตร้าโซนิคด้านซ้ายขวามาพร้อมกลไก Dual Haptics ที่ช่วยให้ทุกการกดในขณะเล่นเกมได้ความลึกสมจริงเสมือนเป็นปุ่มกดจริงทั้งยังสามารถปรับระดับการตอบสนองให้รับกับความต้องการของผู้เล่นได้อย่างอิสระ ตัวอย่างเช่น การปรับโหมดการยิงในเกม (สูงสุดที่การยิง 10 ครั้งต่อวินาที) ด้วยการกดปุ่มไกแบบลากยาว เซ็นเซอร์แบบ gyroscope ช่วยปรับมุมมองในการเล่นให้เป็นแบบเกมมิ่งโดยอัตโนมัติทุกครั้งที่คุณหมุนเครื่องให้อยู่ในแนวนอนในลักษณะพร้อมเล่นเกม Dual Front-Facing Speakers ลำโพงคู่หน้าที่หันเข้าหาผู้เล่นให้คุณได้ยินเสียงฝีเท้าคู่ต่อสู้ได้อย่างชัดเจนด้วยเทคโนโลยีเสียง Dirac Audio ที่มาพร้อมอะคูสติก แชมเบอร์ขนาดใหญ่ถึง 1.4cc ให้เสียงดังแบบ 3 มิติ รับประสบการณ์เสมือนได้เข้าไปอยู่ในเกม Dual Livestreaming ฟังก์ชั่นสำหรับการไลฟ์สตรีมผ่านกล้องหน้าแบบ pop-up ความละเอียดขนาด 20MP ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าสู่โหมดการไลฟ์สตรีมในเวลาเพียง 0.5 วินาที ไลฟ์สตรีมหน้าและเสียงขณะเล่นกับภาพแบบ overlay บนหน้าจอเกมที่เล่น ซึ่งฟังก์ชัน Dual Livestreaming สามารถใช้งานได้บนแอปที่รองรับการไลฟ์สตรีมที่มีอยู่ในปัจจุบัน ตัวฟังก์ชันยังมาพร้อมความสามารถในการลบภาพพื้นหลัง ปรับแต่งใบหน้าของคุณด้วย selfie editor ที่ใช้ความสามารถของ AI ในการรีทัช ปรับแต่งภาพและสร้างฟิลเตอร์ บันทึกเสียงทุกการไลฟ์ให้ดังฟังชัดด้วยไมโครโฟนแบบรอบทิศทาง 4 ตัวที่มาพร้อมระบบจัดการเสียงรบกวนรอบข้าง Legion Phone Duel มาพร้อมกล้องหลังความละเอียด 64MP และเลนส์แบบ ultrawide ขนาด 16MP ให้ภาพละเอียดคมชัดในทุกมุมมอง นอกจากนี้ยังรอบรับการอัดวีดีโอแบบ 4K ที่เฟรมเรต 30FPS เล่นในแบบที่คุณต้องการ ต่อเนื่องตลอดวัน Legion Phone Duel มาพร้อมอินเตอร์เฟซแบบเฉพาะที่ช่วยให้ผู้เล่นสามารถใช้งานเครื่องในมุมมองแบบแลนด์สแคปได้อย่างสะดวกสบายไม่ว่าจะเพื่อการใช้งานทั่วไปหรือเล่นเกม Legion Realm แดชบอร์ดกลางของเครื่องที่ให้ผู้ใช้ควบคุมปรับแต่งฮาร์ดแวร์เครื่อง ไล่ดูรายชื่อเกมที่ดาวน์โหลดไว้ หรือเลือกเครือข่ายในการเชื่อมต่อไม่ว่าจะเป็น  WLAN, 5G, หรือ Wi-Fi 6 ได้อย่างรวดเร็ว ดูเกมที่คุณเล่นย้อนหลังเพื่อศึกษากลยุทธในฉากที่ไฮไลท์ก็ทำได้อย่างง่าย ๆ ผ่านฟังก์ชั่นการพรีวิว หรือจะรวมคลิปเข้าด้วยกันเพื่อแชร์ให้เพื่อรวมทีมไปศึกษาก็ทำได้ หรือถ้าคุณเพิ่งผ่านสมรภูมิสุดหิน หรือทำสถิติคะแนนใหม่แต่คุณลืมที่จะกด record ก็ไม่ต้องกังวลใจไป เพียงแค่คุณสไลด์นิ้วมือไปทางซ้ายบนปุ่มไกควบคุมด้านขวา เกมมิ่งสมาร์ทโฟนสุดอัจฉริยะอย่าง Legion Phone Duel ก็จะรีเพลย์ฉากที่เครื่องอัดไว้แบบอัตโนมัติให้กับคุณเพื่อที่คุณจะสามารถกดอัดบันทึกไว้ดูในอนาคต ไม่พลาดทุกการติดต่อที่สำคัญด้วยการปรับแต่งสีไฟ RGB บน สัญลักษณ์ตัว Y ด้านหลังเครื่องให้เปลี่ยนสีเพื่อเตือนเมื่อคุณมีข้อความเข้า หรือบอกสถานการณ์ชาร์จของแบตเตอรี่ และสุดท้าย หากคุณต้องการเปลี่ยนอรรถรสในการเล่นจากหน้าจอเครื่องไปที่จอมอนิเตอร์เพื่อมุมมองที่แปลกใหม่ก็สามารถทำได้ง่าย ๆ เพียงต่อ Legion Phone Duel เข้ากับจอมอนิเตอร์ คีย์บอร์ด หรือเม้าส์ผ่านพอร์ต USB-C Lenovo Legion Phone Duel จะวางจำหน่ายในประเทศไทยวันที่ 28 ตุลาคม 2020 เป็นต้นไป ตามรายละเอียดดังนี้ Lenovo Legion Phone Duel 12GB / 256GB Blazing Blue ราคา 23,990 บาท Lenovo Legion Phone Duel 16GB / 512GB Vengeance Red ราคา 30,990 บาท ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ  Lenovo Legion Phone Duel ได้แก่ AIS, Banana, Blue Shop, IT-City, JD, JIB และ Speed Computer  Pre-Order Promotion สำหรับลูกค้าที่สั่งซื้อระหว่างวันที่ 22 – 28 ตุลาคม 2020 รับสิทธิรับของสมนาคุณมูลค่าสูงสุดกว่า 3,500 บาท ดังนี้  Lenovo Legion Phone Duel 12GB / 256GB Blazing Blue ราคา 23,990 THB รับฟรี Legion Gaming Backpack Recon มูลค่า 1,990 บาท Lenovo Legion Phone Duel 16GB / 512GB Vengeance Red ราคา 30,990 บาท รับฟรี Legion Gaming Backpack Recon มูลค่า 1,990 บาท และ Legion Gaming Headset H300 มูลค่า 1,390 บาท ติดตามความเคลื่อนไหวของผลิตภัณฑ์ Lenovo Legion ในประเทศไทยได้ที่  www.lenovo.com/th/th/legion และ https://www.facebook.com/lenovolegionTH/
22 Oct 2020